เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย พุทธวงศ์ 11. สุเมธพุทธวงศ์
ของพระชินเจ้าพระนามว่าสุเมธะ
แสวงหาคุณอันยิ่งใหญ่
[24] พระรามาเถรีและพระสุรามาเถรีเป็นพระอัครสาวิกา
ต้นไม้เป็นที่ตรัสรู้ของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น
ชาวโลกเรียกว่า ต้นสะเดา
[25] อุรุเวลาอุบาสกและยสวาอุบาสกเป็นอัครอุปัฏฐาก
ยโสธราอุบาสิกาและสิริมาอุบาสิกาเป็นอัครอุปัฏฐายิกา
[26] พระมหามุนีทรงมีพระวรกายสูง 88 ศอก
ทรงเปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทิศ เหมือนดวงจันทร์ในหมู่ดาว
[27] พระรัตนะ1ของพระองค์แผ่ไปตลอดโยชน์หนึ่งโดยรอบ
เหมือนแก้วมณีของพระเจ้าจักรพรรดิแผ่ไปโยชน์หนึ่ง
[28] ขณะนั้น มนุษย์ทั้งหลายมีอายุประมาณ 90,000 ปี
พระองค์ก็ทรงดำรงพระชนมายุประมาณเท่านั้น
ทรงช่วยหมู่ชนให้ข้ามพ้นได้เป็นจำนวนมาก
[29] ศาสนาของพระองค์คับคั่งไปด้วยพระอรหันต์ทั้งหลาย
ล้วนแต่ผู้ได้วิชชา 3 อภิญญา 6 และพละ2 ผู้คงที่
[30] แม้ท่านทั้งหมดนั้นล้วนมียศนับไม่ถ้วน หลุดพ้นแล้ว
ไม่มีอุปธิมีพระยศอันยิ่งใหญ่ แสดงแสงสว่างแห่งญาณแล้วนิพพาน
[31] พระชินพุทธเจ้าผู้ประเสริฐพระนามว่าสุเมธะ
เสด็จดับขันธปรินิพพานที่เมธาราม
พระบรมสารีริกธาตุของพระองค์
แผ่ไปอย่างกว้างขวางในนานาอารยประเทศ ฉะนี้แล
สุเมธพุทธวงศ์ที่ 11 จบ

เชิงอรรถ :
1 พระรัตนะ หมายถึงพระรัศมี (ขุ.พุทธ.อ. 27/293)
2 พละ หมายถึงกำลังฤทธิ์ (ขุ.พุทธ.อ. 27/293)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 33 หน้า :649 }